สเปกเตอร์ ยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเริ่มต้น 31.8 ล้านบาท
สเปกเตอร์ คือ ผู้เปิดตำนานอันน่าตื่นเต้นบทใหม่ของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส และเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของยุคแห่งยนตรกรรมที่ขับเคลิ่อนด้วยไฟฟ้าของแบรนด์ โดยยนตรกรรมรุ่นดังกล่าว นับเป็นการยืนยันถึงพันธสัญญา, ความแม่นยำแห่งการทำนาย และการพัฒนาอันน่าทึ่ง
พร้อมแสดงให้เห็นว่า โรลส์-รอยซ์ ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ยังคงรักษาเอกลักษณ์และจุดเด่นตามแบบฉบับของ โรลส์-รอยซ์ พันธุ์แท้ ทุกประการ ควบคู่ไปกับเป้าหมายในการทำให้ยนตรกรรมทุกรุ่นที่จำหน่าย ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2573
วิศวกรรม
‘โรลส์-รอยซ์ 3.0’โรลส์-รอยซ์ รุ่นแรกในยุคของ กู๊ดวูด (Goodwood-era) หรือ โรลส์-รอยซ์ 1.0 คือ รุ่น แฟนธอม ที่เปิดตัวช่วงปี 2546 พร้อมจุดเด่นเชิงสถาปัตยกรรม Bespoke ต่อมา ทางแบรนด์ได้รังสรรค์ โรลส์-รอยซ์ 2.0 ที่ชูจุดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา ‘Architecture of Luxury’
กับแพลตฟอร์มอะลูมิเนียมสเปซเฟรมที่ใช้เป็นพื้นฐานของรุ่น โกสต์ (Ghost) และ คัลลิแนน (Cullinan) มาถึงปัจจุบัน กับรุ่น สเปกเตอร์ (SPECTRE) ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน
ผสานความล้ำสมัยของระบบ Decentralised Intelligence จึงเป็นเสมือนจุดเริ่มต้น
ของ โรลส์-รอยซ์ 3.0
แพลตฟอร์มอะลูมิเนียม สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา
สเปกเตอร์ เป็นยนตรกรรมรุ่นที่ 4 ที่ใช้แพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส และผ่านการออกแบบมาเพื่อรองรับกับขุมพลังไฟฟ้าอย่างลงตัว อีกทั้งเพิ่มความแข็งแกร่งของสเปซเฟรม
อีก 30% เมื่อเทียบกับ โรลส์-รอยซ์ รุ่นอื่นๆ ส่วนแบตเตอรี่ได้รับการติดตั้งบริเวณพื้นรถ
ที่นอกจากช่วยให้ห้องโดยสารมีพื้นเรียบ และเบาะนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงและมีการทรงตัวดีขึ้น ก็ยังทำหน้าที่เป็นแผ่นกันเสียงรบกวนที่มีน้ำหนัก 700 กิโลกรัมอีกด้วย
ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน การเปิดตัวของ โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ แสดงถึงความเชื่อมั่นของ โรลส์-รอยซ์ ว่ารถยนต์ไฟฟ้า คือ หนทางสู่อนาคต เหนือกว่าเทคโนโลยีไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าจาก 2 มอเตอร์ SSM (Separately Excited Synchronous Motors) ด้านหน้า 190 กิโลวัตต์ / 365 นิวตันเมตร ด้านหลัง 360 กิโลวัตต์ / 710 นิวตันเมตร หรือมีสมรรถนะใกล้เคียงกับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป พละกำลัง 430 กิโลวัตต์ (584 hp) แรงบิด 900 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร
ต่อชั่วโมง ภายใน 4.5 วินาที
สำหรับระยะทางในการขับ ทางแบรนด์ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มลูกค้า เพื่อให้ทราบถึง
ความต้องการในการใช้งานที่แท้จริง ซึ่งระยะทางสูงสุดที่สามารถขับได้ไกลถึง 530 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) นับว่าสูงกว่าที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ ทำให้ สเปกเตอร์ เป็นยนตรกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โรลส์-รอยซ์ ได้เป็นอย่างดี จากการที่ลูกค้า โรลส์-รอยซ์
ส่วนใหญ่ มักมีรถยนต์ใช้งานประมาณ 7 คัน และขับรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ของตนเอง
เป็นระยะทางประมาณ 5,100 กิโลเมตรต่อปี นอกจากนั้น ทางผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้า ในการติดตั้งระบบชาร์จไฟที่บ้านอีกด้วย ซึ่ง สเปกเตอร์ สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ใน 34 นาที ผ่านระบบชาร์จไฟกระแสตรง (195 กิโลวัตต์-DC) และสามารถวิ่งได้ไกล 100 กิโลเมตร เมื่อผ่านการชาร์จไฟเพียง 9 นาทีเท่านั้น นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบช่วยขับ คือ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Active Lane Centring) และอะแด๊ปทีฟครูสคอนโทรล เพื่อการขับที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
แบตเตอรี่
ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออน 102 กิโลวัตต์ชั่วโมง ผลิตจากแร่โคบอลต์และลิเธียม
จากแหล่งผลิตที่มีการควบคุมเข้มงวดในออสเตรเลีย,โมรอคโค และ อาร์เจนตินา ซึ่งเซลล์ภายในแบตเตอรี่ผลิตขึ้นด้วยพลังไฟฟ้าที่มาจากธรรมชาติ 100% พร้อมทำการทดสอบภายใต้อุณหภูมิสุดขั้ว ตั้งแต่ -40 องศาเซลเซียส ไปจนถึงร้อนจัดกว่า 50 องศาเซลเซียส
ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเหมาะสมสำหรับการใช้งานทุกสภาวะ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์
อันชาญฉลาด
ไฮไลท์อื่นๆ ที่มีใน โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ มีดังนี้:
ระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรก (Braking recuperation)
โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ มีระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรก โดยระบบจะทำงานเมื่อผู้ขับกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ ‘B’ บริเวณก้านควบคุม ซึ่งการใช้งานใน ‘Brake Mode’ รถยนต์จะมีการหน่วงอัตโนมัติเมื่อผู้ขับยกคันเร่ง จากการกักเก็บพลังงานที่มากขึ้น ส่งผลให้สามารถขับได้
โดยแทบไม่ต้องแตะเบรก (Single-pedal driving) แต่หากผู้ขับเลือกใช้โหมด
‘low recuperation’ อาการหน่วงเมื่อยกคันเร่งจะมีไม่มากนัก ให้ความรู้สึกคล้ายการขับ
โรลส์-รอยซ์ ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปมากกว่า
วิศวกรรมดิจิทัล
วิศวกรของ โรลส์-รอยซ์ ให้คำนิยามของ สเปกเตอร์ ไว้ว่าเป็น ‘โรลส์-รอยซ์ ในแบบอัลตรา-ไฮ เดฟินิชั่น’ ซึ่งมาจากการประมวลผลอันรวดเร็วของระบบ ‘Decentralised Intelligence’
โดยข้อมูลต่างๆ จะถูกนำมาประมวลผลแบบอิสระจากกัน ช่วยลดโอกาสผิดเพี้ยน ต่างจากรถยนต์ที่ใช้การประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ส่วนกลางเพียงจุดเดียว
ระบบช่วงล่างพลานาร์ (Planar Suspension System)
โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ ใช้ระบบช่วงล่างพลานาร์ ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อเนื่องจากที่ติดตั้งในรุ่น โกสต์ เป็นครั้งแรก โดยเป็นการทำงานร่วมกันหลายชิ้นส่วนที่ผ่านการพัฒนามาอย่างพิถีพิถัน เสมือนเป็น ‘ออเคสตร้า’ ที่ช่วยสร้างประสบการณ์เดินทาง ‘magic carpet ride’ ที่ให้ความรู้สึกราวกับล่องลอยอยู่บนพรมวิเศษ
การขับบนทางตรง ระบบช่วงล่างสามารถตัดการเชื่อมต่อของเหล็กกันโคลง ช่วยให้แต่ละล้อสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระขณะที่เมื่อเข้าโค้ง ระบบจะเพิ่มความหนืดโช้กอัพ
และเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยว 4 ล้อ เพื่อให้สามารถเข้าและออกโค้งได้อย่างราบรื่น
โดยมีเซ็นเซอร์อิสระ วัดค่าต่างๆ ที่เกิดขึ้นขณะเลี้ยวโค้ง อาทิ องศาพวงมาลัย, การเบรก,
การส่งกำลัง และการทำงานของระบบช่วงล่าง พร้อมปรับระดับการทำงานอย่างเหมาะสม
เพื่อความสมบูรณ์แบบของประสิทธิภาพการทรงตัวและเกาะถนน
SPIRIT-สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา มาในแบบดิจิทัล
สปิริต (SPIRIT) เป็นสถาปัตยกรรมดิจิทัล ที่ช่วยให้ผู้ครอบครอง สเปกเตอร์ ได้เชื่อมต่อกับรถยนต์ของตนอย่างใกล้ชิดกว่าที่เคย นอกเหนือจากการควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ขณะใช้รถ สปิริต ก็เป็นส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่น ‘วิสเปอร์ส’ (Whispers) ของ โรลส์-รอยซ์
ทำให้เจ้าของรถสามารถสั่งการได้จากระยะไกล
ประตูอิเล็กทรอนิกส์ (Effortless Doors)
สเปกเตอร์ มีประตูยาว 1.5 เมตร แบบไร้เสากลาง เชื่อมด้วยเลเซอร์ ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวก
ในการเปิด-ปิด พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษที่มีเฉพาะ สเปกเตอร์ เมื่อผู้ขับเหยียบเบรก ประตูจะปิด
โดยอัตโนมัติ
รูปลักษณ์
แรงบันดาลใจในการออกแบบ โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ ไปไกลกว่าสิ่งที่มีอยู่ในโลกยนตรกรรม โดยได้นำรูปลักษณ์อันโดดเด่นและประณีตในทุกรายละเอียด ของ เรือยอชท์ทรงสปอร์ต
มาปรับใช้อย่างชาญฉลาด ขณะที่กระจังหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเสาของวิหารแพนธีออน (Pantheon grille) ก็มีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยติดตั้งกับรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ซี่กระจังผลิตจากสเตนเลสปัดเงา พร้อมผิวสัมผัสนุ่มเรียบ เพิ่มความอลังการด้วยแอลอีดี 22 ดวง ที่ส่องแสงกระทบกับพื้นหลังเสาที่ผ่านการพ่นทราย เกิดเป็นมุมมองที่งดงามแบบ 3 มิติยามค่ำคืน
สัญลักษณ์นางฟ้าบริเวณหน้ารถ (Spirit of Ecstacy) ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ สเปกเตอร์ โดยปรับให้มีลักษณะต่ำลงเล็กน้อย และดูลู่ลมยิ่งขึ้น ใช้เวลาในการออกแบบและทดสอบ
ในอุโมงค์ลม รวมกว่า 830 ชั่วโมง หรือกว่า 1 เดือน ซึ่งมีส่วนช่วยให้ สเปกเตอร์
มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำมาก (drag coefifficient) เพียง 0.25cd ส่งผลให้ สเปกเตอร์ เป็นรถที่มีอากาศพลศาสตร์ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์
ไฟหน้าแบบแยกส่วนนับเป็นเอกลักษณ์ของยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ มาช้านาน และเป็นการรำลึกถึงดีไซน์ของรุ่นพี่อย่าง แฟนธอม คูเป้ ลงตัวกับเส้นสายตัวถังอันเฉียบคม นำสายตา
ไปสู่ด้านหลังในสไตล์รถฟาสต์แบค ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยนตรกรรมคลาสสิกและเรือยอชท์ที่ใช้ในการแข่งขัน ขณะที่เส้นตัวถังบริเวณข้างประตู (waft line) ให้ความรู้สึกเหมือนเรือ
ที่ลอยเหนือผิวน้ำ สะท้อนถึงความนุ่มสบายของการขับเคลื่อนแบบ ‘magic carpet ride’
อันเลื่องชื่อ
อีกจุดเด่นคือ ไฟท้ายแบบใหม่ ออกแบบให้ปราศจากสีสันโดยสิ้นเชิง เพื่อให้สามารถเข้ากับ
สีของตัวถังที่มีให้เลือกไม่จำกัด ปิดท้ายด้วยล้อขนาดอลังการ 23 นิ้ว ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรก
ในรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ คูเป้ ในสายการผลิตในรอบเกือบ 100 ปี เติมเต็มสัดส่วนอันสง่างาม
ของ สเปกเตอร์ อย่างลงตัว
ห้องโดยสาร
ภายในของ สเปกเตอร์ พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีและหลากหลายฟีเจอร์พิเศษแบบ Bespoke อาทิ ประตูดาว (Starlight Doors) ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกกับ โรลส์-รอยซ์ ในการการผลิต
ส่องแสงอ่อนๆ เป็นประกายระยิบระยับ ผ่าน 4,796 ดวงดาว หรือหากลูกค้าต้องการ
ก็สามาเลือกติดตั้งแผงไม้ คานาเดล (Canadel panelling) ที่ผลิตขึ้นด้วยมือจากไม้ชั้นเลิศ
งดงามกับแดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) บริเวณฝั่งผู้โดยสาร ผ่านการฉลุเป็นชื่อ ‘SPECTRE’ ล้อมรอบด้วยประกายดาวมากกว่า 5,000 ดวง ส่วนเบาะคู่หน้าก็สามารถเลือกสีบริเวณปีกเบาะ ให้เข้ากันกับบริเวณรองนั่ง หรือเลือกสีตัดกันได้ตามชอบในสไตล์เทเลอร์เมดตามแบบชาวอังกฤษ รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ที่ โรลส์-รอยซ์ เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดรายละเอียด
แบบ Bespoke ได้ตามจินตนาการไร้ขีดจำกัด
โรลส์-รอยซ์ ที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
สเปกเตอร์ คือ โรลส์-รอยส์ ที่ลงตัวกับทุกยุคสมัย พร้อมกับการเป็นผู้กำหนดทิศทางสู่อนาคต ภายใต้หลักปรัชญา ‘A Rolls-Royce first and an electric car second’.
++++++++++
SPECTRE AT A GLANCE – BY THE NUMBERS (STATISTICS)
DIMENSIONS | |
Number of doors/seats | 2 doors / 4 seats |
Vehicle length | 5475 mm / 215.55 in |
Vehicle width (excl mirrors) | 2017 mm / 79.41 in |
Vehicle width (incl mirrors) | 2144 mm / 84.41 in |
Vehicle height (unladen) | 1573 mm / 61.93 in |
Wheelbase | 3210 mm / 126.38 in |
Turning circle | 12.7 m |
Kerb weight | 2890 kg |
Boot volume | 380 litres |
Coach Doors | 1.5 m |
DRIVING PERFORMANCE | |
Power | 430kW (584 hp) |
Torque | 900Nm |
Acceleration | 0-60mph in 4.4 seconds (0-100km/h in 4.5 seconds). |
Drag coefficient | 0.25 |
Reversing assistant (metres) | 200 |
ELECTRIC MOTORS | |
Number of motors | 2 |
Type of motors | Separately Excited Synchronous Motor (SSM) |
Front motor power | 190kW / 365 Nm |
Rear motor power | 360kW / 710 Nm |
LITHIUM-ION BATTERY | |
Net capacity | 102 kWh |
Battery Weight | 700 kgs |
Individual Cells | 804 |
Added rigidity due to battery | 30% |
CONSUMPTION, RANGE AND CHARGING | |
Consumption | WLTP: Power consumption: 2.6 – 2.8 mi/kWh / 23.6 – 22.2 kWh/100km |
Range | 530km (329 miles) WLTP580km CLTC*260 miles EPA**Preliminary data to be confirmed at start of series production |
CO2 emissions | 0 g/km |
Occasional Charger | 11 kW (16 A, 3 phase) or 9.6 kW (40 A, 1 phase) |
“Home charger” – AC charging | 22kW |
Charging 10-80% 195 kW (DC) max | 34 minutes |
Charging 10-80% 50 kW (DC) | 95 minutes |
Charging 0-100% 22 kW (AC) | 5 hours 30 minutes |
ENGINEERING & DESIGN | |
Wheels | 23” (largest fitted to a production R-R) or 22” |
Tyres | 255/40 R 23 104 Y XL & 295/35 R 23 108 Y XL |
Sender receiver relations | 141,200 |
Sub functions | 25,000 |
Cabling | 7 km |
Headlight range | 600m range |
Headlight construct | 12 segment 4 matrix lamp |
SoE wind tunnel testing | 830 hours |
INTERIOR | |
Individual backlit perforations (doors) | 2398 |
Stars in starlight headliner | 1344 |
Angle of wood with Canadel option in doors | 45 degrees |
Boot (volume) | 380 litres |
TESTING | |
Testing | 2.5 million kms |
Hours | 50,000 |
Equivalent to | 62 times around the world & 400 years of regular use |
Arctic Circle | -40C |
South Africa | +50C |
จากนั้นช่วงปี 2554 โรลส์-รอยซ์ ก็ได้เผยโฉมยนตรกรรมต้นแบบ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน
ที่พัฒนาบนพื้นฐานของรุ่น แฟนธอม (Experimental Phantom concept) ภายใต้รหัส 102EX และตามมาด้วย 103EX ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำยุคและสื่อถึงแนวทางในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
ของ โรลส์-รอยซ์ ในอนาคตได้อย่างชัดเจน
โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ ราคาเริ่มต้น 31.8 ล้านบาท (รวมภาษี) ไม่รวมออปชั่น
มาพร้อมแพ็กเกจ SPECTRE Ownership ดังนี้:
– รับประกันคุณภาพจากผู้ผลิตนาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ไม่ครอบคลุมรถยนต์
ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์)*
– รับประกันคุณภาพแบตเตอรี่นาน 10 ปี*
– โปรแกรมบำรุงรักษา (service inclusive) ครอบคลุมค่าแรงทั้งหมด*
– บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง*
– ทีมบุคลากรของ โรลส์-รอยซ์ ในประเทศไทย ผ่านการอบรมพร้อมประกาศนียบัตรด้านการบำรุงรักษา สเปกเตอร์ อย่างเต็มรูปแบบ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
สอบถามข้อมูล กรุณาติดต่อ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก (พระราม 3)
โทร. 02-670-6060
Facebook: Rolls-Royce Motor Cars Bangkok
LINE Official: Rolls-Royce Bangkok